วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2550

ตอนที่ 1 : เจ้าหญิงคานทอง (1)


กาลครั้งหนึ่ง นานแสนนานมาแล้ว ณ โลกแห่งนิทาน ยังมีอาณาจักรเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เคยนึกสงสัยบ้างไหม เล่านิทานทีไรก็ขึ้นแบบนี้ หลายคนอยากจะรู้สินะ ว่ามันนานขนาดไหน ก็นานขนาดที่ว่า ในตอนนั้น อาณาจักรแห่งนี้ ยังไม่มีชื่อเลยน่ะสิ ทุกคนเลยขนานนามอาณาจักรแห่งนี้ว่า "อาณาจักรไร้ชื่อ" ก่อนที่มันจะมีชื่อขึ้นมาอย่างใหญ่โต เหมือนในปัจจุบัน

อาณาจักรแห่งนี้ ถึงแม้จะไร้ชื่อ แต่ก็ยังเป็นอาณาจักรที่เงียบสงบดีล่ะนะ ใช่...เงียบสงบดี จนกระทั่งพระราชากับพระราชินี ได้ให้กำเนิดเจ้าหญิงน้อยที่แสนน่ารักนั่นแหละ เรื่องวุ่นวายไม่รู้จบ ก็ได้เกิดขึ้น

การมีเจ้าหญิงน้อยผู้น่ารักในอาณาจักร มันก็เป็นเรื่องปกติของอาณาจักรทั่ว ๆ ไปเขามีกันนั่นแหละ ทว่าเจ้าหญิงของเรา กลับไม่เหมือนเจ้าหญิงคนอื่น ๆ ไม่เหมือนกระทั่งชื่อ เพราะทุกคนนั้น พร้อมใจกันขนานนามเธอ (ลับหลัง) ว่า "เจ้าหญิงคานทอง" ซะแล้ว

ทำไมถึงได้เรียกแบบนั้น หลายคนคงเริ่มคิดในใจด้วยความสงสัยและสงสาร ก็แน่ล่ะ ใครจะอยากมี "คานทอง" ตามหลังคล้ายบอกยี่ห้อกันล่ะ มันก็ต้องมีที่มา เรื่องของเรื่องมันก็เกิดขึ้น ตอนที่เจ้าหญิงที่แสนเรียบร้อยเหมือนผ้าที่ลืมพับคนนี้ อายุได้สิบขวบ

วันนั้น ทุกคนคงยังจำกันได้ดี แต่น้อยคนนัก จะกล้าพูดถึง เรื่องราวแห่งจุดเริ่มต้นของชะตากรรมที่น่าสะพรึงกลัว...ไม่มีเรื่องไหนจะน่ากลัวกว่านี้อีกแล้ว...คำสาปนั่น...ที่ทุกคนผู้เผชิญกับมันต่างหวาดผวา มันเป็นวันที่แม้อยากจะลืม แต่ก็ลืมไม่ลง

วันนั้นเป็นวันเกิดครบรอบสิบขวบของเจ้าหญิงน้อยที่น่ารักของเรา...เจ้าหญิงเอริเซีย...ชื่อที่ทุกคนเกือบลืม เพราะจำได้แค่ "เจ้าหญิงคานทอง"

"ท่านแม่คะ ท่านแม่ เค้กของเอริเสร็จหรือยังคะ" เสียงใส ๆ ดังมาจากร่างกลมป้อมน่าเอ็นดู แก้มชมพูระเรื่อสุขภาพดีประดับด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่ร่างเล็กจะโผเข้าหาหญิงสูงศักดิ์ ผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงเบื้องหน้าอย่างรักใคร่ ด้วยใบหน้ารูปไข่ขาวผ่องเช่นกัน มีแตกต่างกันเพียงราชินีมีผมสีน้ำตาลเข้มกว่าเล็กน้อย ในขณะที่เจ้าหญิงมีผมยาวตรงสีน้ำตาลเหลือบทองสุกใส ดวงตากลมโตสีฟ้าสว่าง เด็กน้อยเงยมองมารดา พลางแย้มยิ้มประจบเอาใจ

ราชินีลูบผมนุ่มของเจ้าหญิงน้อยเบา ๆ "ใกล้แล้วล่ะจ้า ปีนี้พิเศษกว่าทุกปี เพราะเราได้ช็อคโกแลตชั้นดีมาจากเพื่อนบ้าน เป็นของขวัญให้ลูกโดยเฉพาะเชียวนะจ๊ะ เค้กคราวนี้เลยมีช็อคโกแลตเยอะเป็นพิเศษ รับรองต้องอร่อยแน่ ๆ จ้า"

"จริง ๆ นะคะ? เอริอยากหม่ำเร็ว ๆ จัง" เจ้าหญิงตอบ ริมฝีปากอมชมพูดูดนิ้วโป้งช้า ๆ นึกไปเองว่ามันคือเค้กก้อนนั้น พลางมองสูงขึ้นไป เค้กก้อนมหึมา สูงราว ๆ ตึกสองชั้น ตั้งตระหง่านอยู่กลางท้องพระโรงใหญ่ มีบรรดาคนงาน ช่างออกแบบ ช่างฝีมือ และแน่นอน ช่างทำเค้ก กำลังทำงานกันวุ่นวาย ตกแต่งส่วนนู้นส่วนนี้ ให้เจ้าแท่งเค้กสีน้ำตาลเข้มก้อนมหึมา เป็นรูปเป็นร่างที่น่ากินขึ้นเรื่อย ๆ

"ท่านแม่ เจ้าชายเอริคบอกเอริว่า เค้กของเขาเมื่อปีที่แล้ว เป็นรูปเจ้าหญิงหุ่นอึ๋มสุดเซ็กซี่..เซ็กซี่กว่าเอริอีก เขายังบอกด้วยนะ ว่าเริ่มหม่ำที่หน้าอกเป็นคำแรกเลย อกคัฟเอฟ ที่ไม่แบนเหมือนของเอริด้วย!" น้ำเสียงของเธอเริ่มหงุดหงิด พลางกระตุกชายเสื้อมารดาอย่างรบเร้า "ท่านแม่คะ ทำไมเราไม่ทำเค้กเป็นรูปเจ้าชายหล่อ ๆ บ้างคะ เอริอยากจะ..หม่ำ..." ดวงตากลมโตจ้องมองต่ำลงเรื่อย ๆ คล้ายมีชายหนุ่มอยู่เบื้องหน้า ต่ำลงไปที่ตำแหน่งซึ่งน่าจะเป็นเป้ากางเกงนั่นแหละ

ราชินีอ้ำอึ้ง นึกในใจอย่างอาฆาตมาดร้ายนิด ๆ กับราชินีประเทศเพื่อนบ้าน ที่สั่งสอนลูกชายได้ถึงใจดีแท้ โดยลืมเลือนสายตาแปลก ๆ ของลูกสาวตัวเอง ซึ่งจริง ๆ น่าจะน่ากลัวกว่าด้วยซ้ำไป พลางตอบว่า "เค้กแบบนั้น..เอ่อ มันทำเค้กได้น้อยนะจ๊ะ คงจะกินไม่อิ่ม สู้เค้กของเราไม่ได้หรอกจ้า เห็นมั้ย เค้กของเรา ใหญ่ตั้งแต่ส่วนฐาน ขึ้นไปถึงด้านบนเลย ถ้าทำแบบมีส่วนโค้งส่วนเว้า ตรงที่หายไปก็ขาดทุนสิลูก"

"อ๊ะ จริงด้วยค่ะ ท่านแม่นี่ฉลาดจริง ๆ" เจ้าหญิงน้อยรับคำ สมองที่เฉลียวฉลาดของเธอนึกคำนวณปริมาตรอย่างรวดเร็ว

"...แต่ว่านะเพคะ ถ้าเราทำให้สูงกว่านี้ ปริมาณเค้กก็เท่าเดิม แถมยัง..เร้าใจกว่าเป็นกอง" เธอแย้งอีก

"อ่ะ...เอ่อ...ไม่หรอกมั้งจ๊ะ อืม ถ้ายังไง ไว้ฉลองคราวหน้า พ่อกับแม่จะลองคิดดูละกัน" ราชินีตอบอ้ำอึ้งอย่างหมดหนทางต่อปากต่อคำ

"แน่นะคะ ลูกจะได้เอาไปอวดยัยเจ้าหญิงฟาเซีย คราวก่อนมาบอกว่า ท่านพ่อของเอริเซ่อด้วยล่ะ เอริไม่ยอมหรอก ท่านพ่อต้องฉลาดพอที่จะสร้างเค้กแบบเท่ ๆ ได้อยู่แล้ว"

ราชินีสาวขมวดคิ้ว เธอก้มลงใกล้ ๆ เจ้าหญิง แล้วกระซิบถามว่า "เจ้าหญิงฟาเซียว่าอะไรท่านพ่อหรือจ๊ะ ทำไมถึงบอกว่าเซ่อล่ะ"

"ก็...ท่านพ่อ...เข้าห้องผิดนี่คะ ฟาเซียบอกหญิง"

"เข้าห้องผิด?" ราชินีทวนคำ

"ค่ะ วันนั้นก็ดึกแล้ว ฟาเซียเห็นท่านพ่อ เข้าห้องของท่านน้ารามีย่า ไม่ใช่ห้องท่านแม่ค่ะ"

"หา..? ฮึ่ม..อย่าอยู่เลย! อ๊ะ!" ราชินีรีบปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้สึกได้ถึงการแอบมองแกมขนลุกของสายตาหลายคู่ จากพวกคนงานทำเค้ก ที่เคยคิดว่าเธอนั้นเพียบพร้อมและใจดีสุด ๆ

ดวงตาที่ปรับใหม่จนดูเอื้ออารีย์อีกครั้งของราชินี เปรยกลับมายังเจ้าหญิงเอริเซีย ก่อนจะดันตัวเธอไปอีกด้าน ขืนคุยกับเจ้าหญิงนานกว่านี้ มีหวังได้ฆาตกรรมสามีก่อนกาลอันควรแน่ ราชินีสาวนับหนึ่งถึงร้อยในใจซ้ำเป็นรอบที่สาม

"ไอริส..ไอริส อยู่ไหนน่ะ มาพาเจ้าหญิงไปแต่งตัวก่อนซิ"

"เจ้าค่ะ" เสียงสาวน้อยรับคำอย่างนอบน้อม เธอคนนั้นอายุราว ๆ สิบสองขวบ เป็นสาวใช้คนสนิทของเจ้าหญิง ที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เล็กนั่นเอง น้องสาวของเธอมาด่วนตายจากไปตั้งแต่ยังไม่ทันได้คลอด หรือง่าย ๆ ก็คือแท้ง แม่ของเธอ ก็เลยเป็นผู้ดูแลเจ้าหญิงน้อย เลี้ยงดูรักราวลูกในใส้ ทดแทนลูกที่จากไป เป็นแม่นมของเจ้าหญิงมาช้านาน

"เจ้าหญิงคะ มาทางนี้เถอะค่ะ" เธอก้าวเข้าไปจูงมือที่ไม่อยากจะเต็มใจเดินเท่าไหร่ ด้วยสายตายังคงอยู่ที่เค้กก้อนงาม

"ไอริส เมื่อไหร่เอริจะได้กินเค้กนั่นล่ะ" ร่างน้อย ๆ เริ่มงอแงนิด ๆ แบบไม่อยากจากไป

ไอริสยิ้ม เธอกระซิบปลอบอย่างรู้ใจว่า " อีกไม่นานหรอกค่ะ เจ้าหญิงแต่งตัวเสร็จเมื่อไหร่ ก็จะได้ทานเอง"

"จริงเหรอ งั้น..เรารีบไปแต่งตัวกันเถอะ เอริหิวแล้ว" เด็กน้อยพูดอย่างกระตือรือร้น

"ค่ะ ๆ รีบไปกันเถอะ" ว่าแล้วเธอก็รีบลากสาวน้อยเข้าห้อง อย่างรวดเร็ว ราชินีมองตามพร้อมกับลอบถอนหายใจเบา ๆ เห็นทีคนที่จะเอาเจ้าหญิงอยู่ คงจะเป็นไอริสคนนี้แน่แท้

--TBC--